ประวัติความเป็นมาประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติฯ
ด้วยในวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช พสกนิกรชาวอําเภอตรอน ประกอบด้วยข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน ทุกหมู่เหล่า ได้สํานึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
ประกอบกับอําเภอตรอนมีแม่น้ําน่านไหลผ่าน ซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงประชาชนชาวอําเภอ
ตรอนมาโดยตลอด สมควรที่จะถือวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ แสดงออก
ถึงความจงรักภักดีต่อพระองค์และสถาบันพระมหากษัตริย์ และตอบแทนบุญคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ํา
อีกทั้งในอดีตยังมีพระมหากษัตริย์หลายพระองค์เคยเสด็จประทับแรมในพื้นที่อําเภอตรอนแห่งนี้ โดยเฉพาะ
ล้นเกล้า รัชกาลที่ 5 ครั้งเสด็จมาเมืองตรอนตรีสินธุ์ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ปีพุทธศักราช 2444 ทรงพอใจใน
ความจงรักภักดีของชาวอําเภอตรอนเป็นอันมาก แม้ว่าเวลาแห่งความประทับ ใจนั้นจะได้ล่วงเลยมาเป็นระยะ
เวลานานแล้ว แต่พสกนิกร ชาวอําเภอตรอนที่ยังคงมีความจงรักภักดี ต่อพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์เสมอมา
ดังนั้น ภาคีทุกภาคส่วนของอําเภอตรอน จึงได้ร่วมกันจัดงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติ และพิธีขอบ
คุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ําขึ้น โดยกําหนดจัดครั้งแรกในปี พ.ศ.2540 และสืบเนื่องตลอดจนถึงปัจจุบัน
วัตถุประสงค์
1. เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา
5 ธันวามหาราช และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
2. เพื่อเป็นการขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ํา ซึ่งนําความอุดมสมบูรณ์มาสู่พื้นที่อําเภอตรอน
ทําให้ราษฎรมีความเป็นอยู่ที่สงบร่มเย็น ดํารงตนภายใต้ความมีน้ําใจ เอื้ออาทร แบ่งปัน ช่วยเหลือ
เกื้อกูลต่อกัน ก่อให้เกิดความสมัครสมานสามัคคี ตามแนวทางการดําเนินชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียง
3. เพื่อส่งเสริมประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวโดยทั่วไป และสนใจเดินทางมา
ท่องเที่ยวเพื่อดื่มด่ําความสวยงามของศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และความสวยงามร่มรื่นของธรรมชาติ
สองฝั่งแม่น้ําน่าน
การจัดงานคร่าวๆ
- บริเวณลานเอนกประสงค์ เทศบาลตำบลตรอน จะเปิดให้ชม แสง สี ฉลองแพไฟเฉลิมพระเกียรติ
ตั้งแต่วันที่ ๓-๕ ธันวาคม มีการแสดงนาฎศิลป์ การแสดงคอนเสิร์ต และมหกรรมอาหารชุมชน
- บริเวณท่าน้ำวัดวังแดง เปิดให้ชม แสง สี ฉลองแพไฟฯ ประกวด ร้องเพลงและมหกรรมอาหาร
- บริเวณท่าน้ำวัดหาดสองแคว จะปล่อยขบวนไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติ จำนวน ๘ ลำ ของคุ้มวัดต่างๆ
จากท่าน้ำวัดวังแดง มายังท่าน้ำวัดหาดสองแคว ในเวลาไล่เลี่ยกัน มีการจัดพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและ
สายน้ำ พิธีจุดเทียนชัยถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, จุดพลุ ดอกไม้ไฟ ปล่อยโคมลอยและ
ประทีปสาย โดยจะมีการแสดงมหรสพสมโภชน์มากมาย
นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ อำเภอตรอน โทร. 0-5549-1114 สอบถามข้อมูลการ
เดินทาง และการท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์ ได้ที่ ททท.สำนักงานแพร่ โทร. 0 5452 1118, 0 5452
1127
พิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหาร เป็นงานประเพณีของชาวอุตรดิตถ์ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพราะจังหวัดนี้
น้ำท่าดี เพาะปลูกพืชผักผลไม้และข้าวเป็นจำนวนมาก มีผลไม้ขึ้นชื่อเฉพาะถิ่นอย่างทุเรียน หลงหลิน ลับแล
เป็นต้น ชาวอุตรดิตถ์เชื่อว่าเพราะมีเทพยดาฟ้าดินคอยช่วยเหลือ ดังนั้นเพื่อเป็นการขอบคุณจึงจัดงานนี้ขึ้นมา
พิธีการมีหลักการแบบอย่างพราหมณ์ มีเฉพาะอำเภอตรอนเท่านั้น
จุดเทียนชัยถวายพระพร ในวันที่ 5 ธันวาคม อันเป็นวันสิ้นสุดของงานประเพณีไหลแพไฟเฉลิมพระเกียรติ
และพิธีขอบคุณพืชพันธุ์ธัญญาหารและสายน้ํา จะมีการจุดเทียนชัยถวายพระพร โดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัด
ข้าราชการ และพสกนิกรทุกหมู่เหล่าเข้าร่วมพิธีอย่างล้นหลามเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดใหญ่ใน
มณฑลพิธี
การแสดงนาฏศิลป์ เป็นสิ่งที่เราจะได้ชมในงานนี้อย่างจุใจ เพราะมีการแสดงต่อเนื่องกันไปหลายต่อหลาย
ชุด เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวอุตรดิตถ์ และการแสดงวิฒนธรรมท้องถิ่น จำได้ว่าใช้เวลาแสดงทั้งหมดเกือบ 2
ชั่วโมงเลยทีเดียว ระหว่างนี้แพไฟจากคุ้มวัดต่างๆ ที่อยู่ติดลำน้ำน่านก็เริ่มเคลื่อนตัวตามกระแสน้ำไหลมา
เรื่อยๆ โดยกำหนดให้แพทั้งหมดไหลมาถึงบริเวณจัดงานพร้อมกันและการแสดงนาฏศิลป์จบลงพอดี ระหว่างนี้
ชาวบ้านแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มหนึ่งชมการแสดงหน้าเวที ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเริ่มออกไปรอชมความสวยงาม
ของแพไฟที่ไหลมาตามลำน้ำ
พอเดินมาถึงริมแม่น้ำ จะเห็นแพบางลำที่มาถึงก่อนจอดเทียบท่าอยู่อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ แพลำต่อๆ มาก็จะ
จอดเรียงกันไปด้านหลัง จำนวนแพ 8 ลำ กินความยาวไม่น้อย เราเลือกชมได้หลายจุดตามความพอใจ เพราะ
ตลิ่งริมแม่น้ำสร้างแนวเขื่อนไว้อย่างแข็งแรง ส่วนมากคนจะเดินถ่ายรูปแพทีละลำๆ จนครบทั้งหมดเหมือนที่ผม
ถ่ายมาให้ชมต่อจากนี้ละครับ
เข้าชม : 813 |