|
หัวปลี |
คุณค่า : อุดมไปด้วยแคลเซียม (มากกว่ากล้วยสุกถึง 4 เท่า) โปรตีน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซี เบต้าแคโรทีน |
สรรพคุณ : แก้โรคกระเพาะอาหาร ลำไส้ ลดน้ำตาลในเลือด รักษาเบาหวาน บำรุงเลือด ตั้งแต่โบราณสอนกันต่อๆมาว่าผู้หญิงที่คลอดลูกใหม่ๆ ให้รับประทานหัวปลีมากๆ จะได้มีน้ำนมให้เลี้ยงลูกนานๆ |
อาหารแนะนำ : แกงเลียงหัวปลี ยำหัวปลี ลวกจิ้วน้ำพริก (เวลาลวกให้ใส่เกลือและน้ำตาลลงในน้ำที่ตุ้มด้วย จะได้ลดความฝาด) ทอดมันหัวปลี หัวปลีชุบแป้งทอด |
|
ใบกระเพรา |
คุณค่า : มีธาตุเหล็ก แคลเซียม ฟอสฟอรัส เส้นใย อาหารสูง |
สรรพคุณ : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ หวัด คลื่นไส้ อาเจียน ลดอาการปวดข้อ ปวดเข่า ลดเบาหวาน ช่วยทำให้อารมณ์ดีขึ้น |
อาหารแนะนำ : ใส่แกงเลียง ผัดกระเพรา แกงป่าหรือผัดเผ็ดต่างๆ เพราะในใบกระเพรามีกลิ่นหอมช่วยดับกลิ่นและรสคาวของเนื้อสัตว์ได้ดี |
* ใบกระเพราที่ต้องซื้อ รสเผ้ดร้อน หรือคุณสมบัติของน้ำมันหอมระเหยอาจจะลดน้อยลง เนื่องมาจากสถานที่ปลูก และปัจจุบันมีการใส่ปุ๋ยเร่งกันมากขึ้นลองสังเกตดูว่าคความฉุนของใบลดน้อยลงมาก |
|
กุยช่าย |
คุณค่า : แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก คาร์โบไฮเดรต เบต้าแคโนทีน วิตามินซี |
สรรพคุณ : แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม |
อาหารแนะนำ : นำส่วนดอกมาผัดกับเนื้อสัตว์ หรือนำใบมากินสดแกล้มกับอาหารอื่นๆแต่ที่นิยมคือ ใส่ผัดไท |
|
กานพลู |
คุณค่า : น้ำมันที่อยู่ในดอกกานพลู มีส่วนประกอบสำคัญคือ Eugenol ที่มีฤทธิ์ต่อร่างกาย |
สรรพคุณ : มีฤทธิ์ช่วยขับน้ำดีเพื่อนำไปย่อยอาหาร ลดอาการบีบตัวของลำไส้บรรเทาอาการแน่น จุกเสียด ลดความเป็นกรดในลำไส้ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินอาหาร |
อาหารแนะนำ : นำดอกตูมแห้งมา 5 - 8 ดอก ชงในน้ำเดือด แล้วดื่มแต่น้ำ |
|
มะละกอ |
คุณค่า : มีธาตุเหล็กและแคลเซียมสูง ฟอสฟอรัส วิตามินเอ บี ซี และมีเอนไซม์ ที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้แก่ ร่างกาย รวมถึงมีเส้นใยอาหารมาก |
สรรพคุณ : บำรุงเลือด บำรุงกระดูก สายตา ป้องกันโรคลักปิดลักเปิด |
อาหารแนะนำ : รับประทานผลไม้สุกเป็นผลไม้ หรือถ้าแบบดิบ มักจะนำมาใส่แกงส้ม ส้มตำ |
|
ฟักทอง |
คุณค่า : ฟักทองมีสารอาหารสำคัญเพื่อบำรุงร่างกายเยอะมาก ทั้งวิตามินเอ บี ซี ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน |
สรรพคุณ : ช่วยเสริมสร้างคลอลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณสดใส และอาจจะช่วยให้หน้าท้องลายน้อยลง |
อาหารแนะนำ : ฟักทองผัดไข่ แกงเลียง ฟักทองนึ่ง แกงบวดฟักทอง ไข่เจียวฟักทอง |
|
ขิง |
คุณค่า : มีโปรตีน ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ บี1 บี2 คาร์โบไฮเดรต |
สรรพคุณ : ขับลม แก้อาเจียน ช่วยย่อยไขมันได้ดี ลดการบีบตัวของลำไส้ บรรเทาอาการปวดท้องเกร็ง ขับเหงื่อ เพิ่มการไหลเวียนเลือด ลดอาการอาเจียน และเชื่อว่าเมื่อคุณแม่รับประทานเข้าไป สรรพคุณที่ดีของขิงจะผ่านทางน้ำนมไปสู่ลูก ทำให้ลูกไม่ปวดท้อง |
อาหารแนะนำ : ยำขิง ยำปลาทูใส่ขิง ไก่ผัดขิง มันหรือถั่วเขียวต้มน้ำขิง ไข่หวานน้ำขิงต้มอุ่นๆ โจ๊กใส่ขิง |
|
ใบแมงลัก |
คุณค่า : มีธาตุเหล็ก แคลเซียม วิตามินบี และวิตามินซีสูง |
สรรพคุณ : ใบแมงลักมีรสหอมร้อน ขับลม ขับเหงื่อ |
อาหารแนะนำ : ใส่แกงเลียง กินสดแกล้มกับขนมจีน หรือใส่แกงป่าต่างๆ |
พืชผักชนิดต่างๆ ที่กล่าว สังเกตให้ดีๆจะเห็นว่า พืชผักที่คนโบราณบอกให้รับประทานเพื่อเรียกน้ำมันนั้น ส่วนใหญ่มีฤทธิ์ให้ความร้อนแก่ร่างกาย ช่วยให้เลือดหมุนเวียนได้ดี ช่วยขับลมในกระเพาะ ช่วยทำให้ระบบการย่อยอาหารเป้นไปอย่างปกติ และประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญอย่าง แคเซียม ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส |
แต่คุณแม่ก็ต้องรับประทานอาหารชนิดต่างๆ ให้ครบทุกหมวดหมู่ รวมถึงผลไม้ เพื่อให้ระบบการย่อยทำงานให้เป็นปกติ |
ส่วนการดื่มน้ำอุ่น ก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ให้นมลูกทุกท่านต้องหมั่นดื่มบ่อยๆทั้งวันโดยเฉพาะช่วงต้นของการให้นมลูก เป็นการเรียกน้ำนมได้ดีอีกทางหนึ่ง และที่ต้องย้ำอีกครั้งคือ ต้องให้ลูกดูดนมจากอกแม่อย่างสม่ำเสมือ และเพียงพอตามที่ลูกต้องการ ถ้าเกิดอาการนมคัด หัวนมแข็ง ก็ต้องบีบให้น้ำนมไหลออกบ้างก่อนให้ลูกดูด ไม่เ่ช่นนั้นลูกดูดไม่ออก พาลจะไม่ยอมดูดนมแม่ในครั้งต่อๆไป |