ประวัติสายัณห์ สัญญา
สายัณห์ สัญญา มีชื่อเดิมนามสกุลเดิมว่าสายัณห์ ดีเสมอ มีชื่อเล่นว่า เป้า เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ.2495 ณ ต.ป่าสะแก อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี บิดาชื่อนายอ่อง ดีเสมอ มารดาชื่อ นางบุญ ดีเสมอ
ใครจะคาดคิดว่าเด็กหนุ่มเลือดสุพรรณ แห่ง อ.เดิมบางนางบวช รูปร่างผอมบาง ใบหน้าคมสันหล่อเหลาเอาการ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขชาวนา กระดูกสันหลังของชาติโดยแท้ จะกลายมาเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งที่โด่งดังมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทยในอนาคต
เมื่อตอนเด็ก ๆ ได้ร่ำเรียนหนังสือที่โรงเรียนใกล้ ๆ บ้านคือ โรงเรียนวัดป่าสะแก จนจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4แล้วก็ออกมาช่วยพ่อแม่ทำนาที่บ้าน แต่ทว่า อยู่ได้ไม่นานคุณพ่อก็เสียชีวิตกลางคัน ปล่อยให้ สายัณห์ ต้องเผชิญเวรเผชิญกรรมอยู่กับแม่บังเกิดเกล้าเท่านั้น สายัณห์นิยมชมชอบและรักการร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เด็ก ตระเวณประกวดร้องเพลงมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน ได้รับรางวัลชนะเลิศมาก็หลายครั้ง โดยมีญาติผู้ใหญ่ที่ชื่อ น้าสว่าง เป็นผู้พาไปสมัครประกวดร้องเพลงตามสถานที่ต่าง ๆ
แรกเริ่มชีวิตการเป็นนักร้อง วันหนึ่งวงดนตรีผ่องศรีมาเปิดทำการแสดงที่วัดราษฎร์บำรุง สมัยนั้นอยู่ในเขตอำเภอดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี และบนเวทีจัดให้มีการประกวดร้องเพลงด้วย สายัณห์จึงมาสมัครเพื่อเข้าร่วมประกวดร้องเพลงด้วย แต่ปรากฎว่าเขาปิดรับสมัครไปก่อนแล้ว ในช่วงที่รอการตัดสินการประกวดร้องเพลง สายัณห์จึงขอขึ้นเวทีไปร้องโชว์แทน เพลงที่สายัณห์ร้องโชว์คือ เพลงแฟนจ๋า ของสุรพล สมบัติเจริญ ปรากฎว่าเมื่อร้องเพลงจบได้รับเสียงปรบมืออย่างกึกก้องจากผู้ชม ผ่องศรี วรนุช ประทับใจ จึงรับสายัณห์เข้าวงดนตรีเมื่อปี พ.ศ.2509
สายัณห์ตัดสินใจจากบ้านเกิดมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพ ฯ พร้อมกับวงดนตรีผ่องศรี หวังเสี่ยงโชคชะตาชีวิตในเมืองสวรรค์เพื่อหวังมาขายเสียงเพลงแบบเดียวกับนักร้องรุ่นพี่คนเด่นคนดังเมืองสุพรรณ ที่นี่สายัณห์ต้องทำทุกอย่างที่ทางวงจะให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นหางเครื่อง แบกกลอง เก็บของจิปาถะไปตามเรื่อง ความมานะอดทน ความซื่อสัตย์ ขยันอดทนเป็นบันไดเบื้องต้นของนักร้องที่จะก้าวไปเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ ถ้าไม่ขวนขวายไม่มีทางพบเจอ อยู่กับวงดนตรีผ่องศรี วรนุช ชื่อของสายัณห์เริ่มปรากฎออกมาให้แฟน ๆ ได้พบหน้าเป็นประจำโดยใช้ชื่อในการเป็นนักร้องว่า "กัมชัย ราษฎร์บำรุง"
จากเริ่มเดิมทีคือคนเต้นหางเครื่องธรรมดา พอตอนหลังมาถึงได้มีโอกาสร้องเพลงบ้างเขาชอบร้องเพลงแนวของ ศรคีรี ศรีประจวบ มานานแล้วโดยเฉพาะ เพลงคิดถึงพี่ไหม ชอบมากเป็นพิเศษ ชีวิตการเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่ง เริ่มมีอนาคตขึ้น และได้อัดแผ่นเสียงเป็นเพลงแรกในชีวิต 1 เพลง คือ เพลงหักใจไม่ลง อยู่กับผ่องศรีได้ประมาณ 3 ปี ผ่องศรีก็ยุบวง
เส้นทางชีวิตเรียบง่ายไม่เป็น ก็ต้องย้ายวงไปเรื่อย ๆ เพื่อแสวงหาจังหวะชีวิตที่ลงตัว ไปอยู่กับวงดนตรีรวมดาวกระจาย ของครูสำเนียง ม่วงทอง ก็พบว่าการเป็นนักร้องเด่นดังนั้นมันไม่ใช่ภาพที่สวยหรูเหมือนที่ตนเองเคยวาดฝันไว้เลย ออกจากคณะรวมดาวกระจาย เพราะอยู่ไม่ได้ก็รับเชิญร้องเพลงไปเรื่อย ๆ ชื่อเสียงยังไม่มีเล่นตัวมากก็ไม่ได้ ปักหลักเข้าวงดนตรีอีกครั้ง เพราะมันมีหลักประกันความหิวได้ มากกว่าเร่ร่อนไปเรื่อยเปื่อย วงดนตรีบรรจบ เจริญพร วงดนตรีก้าน แก้วสุพรรณ จนมาถึงวงดนตรีชินกร ไกรลาศ ตอนแรกชินกรก็คิดอยู่นานว่าจะรับหรือไม่ แต่พอสอบถามจึงได้ความว่าสายัณห์เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย ชินกรจึงรับไว้ หนุ่มสุพรรณผู้มีความรู้น้อย ไม่อาจเลือกงานอะไรได้มากนัก นอกจากร้องเพลงขายเสียงเสี่ยงดวงไปวัน ๆ จากวงนั้นมาวงนี้ จากวงนี้ไปวงโน้น วนเวียนไปมา และที่นี่เองที่วงดนตรีชินกร ไกรลาศ โชคชะตาก็ชักพาได้เจอกับผู้อุปการะที่แท้จริงคือ คุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ ซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมันพรรุ่งโรจน์ บุคคโลและเป็นเจ้าของวงดนตรี รวมพร ซึ่งมีศักดิ์ สนธยา เป็นผู้จัดการวง
พ.ศ. 2515 คุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ ออกทุนให้สายัณห์อัดแผ่นเสียง เริ่มต้นจากเพลงรักเธอเท่าฟ้า และ เพลงพลัดคู่ ความหวังที่ตั้งใจ คือเพลงดังจะได้มีงานทำ มีเงินใช้เหมือนคนอื่นเขาบ้าง แต่ความหวังที่คิดว่าเพลงมันจะดังกลับเป็นหมัน แผ่นเสียงถูกเก็บกักดองแช่เย็น กำลังใจหดหู่อยู่ไปก็ไม่มีความสุข อยู่กับชินกร ได้ไม่นานเพียงปีเศษก็อำลาออกจากวง จึงเข้าร่วมวงดนตรีรวมพร แต่ก็ไปไม่รอด ที่สุดก็เป็นเด็กล้างรถอยู่ในปี๊มน้ำมันพรรุ่งโรจน์ บุคคโล
ชะตาเวียนวนจนเวียนหัว ชีวิตไม่มีอะไรดีขึ้น จะกลับบ้านก็กลับไม่ได้ วันหนึ่งขณะที่สายัณห์ช่วยงานล้างรถอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ชลธี ธารทอง ครูเพลงชื่อดังที่ตอนนั้นยังเป็นนักร้อง และนักแต่งเพลงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง และตัดสินใจจะกลับไปใช้ชีวิตชาวไร่ที่บ้านนอก เพราะไม่ประสบความสำเร็จในวงการเพลงได้แวะมาเข้าห้องน้ำที่ปั๊มแห่งนี้ และได้ยินสายัณห์ ร้องเพลงของ ศรคีรี ศรีประจวบ ได้ถูกใจ หลังจากได้คุยกัน สายัณห์บอกว่าเขาอยากเป็นนักร้อง และมีนายทุนซึ่งก็คือ เจ้าของปั๊มน้ำมันนั่นเอง ชลธี จึงมอง เพลงลูกสาวผู้การ และ เพลงแหม่มปลาร้าให้สายัณห์ฟรี ๆ โดยเดิมที 2 เพลงนี้ชลธีจะแต่งให้ศรคีรีร้อง แต่ศรคีรีโชคร้ายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตไปก่อน การได้ร้องบันทึกแผ่นเสียง 2 เพลงนี้ได้รับความอุปการะจากคุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี เช่นเดิม ก่อกำเนิดวงดนตรีน้องใหม่ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ยังไม่รู้ว่าผลงานการแสดงจะเป็นอย่างไรบ้าง จะน่าดูหรือไม่น่าดู จากการผลักดันสนับสนุนของคุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ ผู้มีพระคุณมาตั้งแต่แรก
วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2516 คือวันเปิดวงครั้งแรก แสดงที่บึงพลาญชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ดผู้คนแห่นแหนมาดู ชนิดมืดฟ้ามัวดิน ไม่น่าเป็นไปได้แต่มันก็เป็นไปแล้ว เปิดวงใหม่ ๆ ค่าตัวค่าแสดงทั้งวง 8,000 บาท ปีแรกเริ่มของการก่อตั้งวงดนตรีเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมายหลากหลายเหตุผล แต่ก็พอจะมีเพลงดังให้คนได้จดจำไม่น้อย เริ่มจาก ลูกสาวผู้การ , แหม่มปลาร้า รวมทั้งเพลงที่คุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ เคยอัดให้ไว้ก่อนแต่ไม่ยอมตัดแผ่นเชียร์ เริ่มต้นเอาออกมาเชียร์กันทีหลัง และก็ดังต่อเนื่องกันมามี รักเธอเท่าฟ้า และ พลัดคู่ ชีวิตศิลปินน้องใหม่ หันหน้าไปหาใครก็ยังไร้บารมี ต้องอดทนอดกลั้นถึงที่สุด ประคับประคองวงดนตรีจนถึงปลายปี ก็โชคดีซ้อน ได้เพลงเด่นส่งอีกถึง 2 เพลง คือเพลงสัญญา 5 ปี และ เพลงลารักจากสวนแตง และที่เจ็บปวดคือประชาชนแฟนเพลงสับสนเหมือนงงจนแยกแยะอะไรไม่ได้ เพราะมีวงดนตรีสัญญา สายัณห์ เกิดขึ้นมาเป็นคู่แข่งด้วย วงดนตรีสองวงชื่อละม้ายคล้ายคลึงกันจนแยกแทบไม่ออกว่าใครเป็นใคร แถมเสียงร้องก็เกือบจะเหมือนกันอีก สายัณห์ตัดสินใจว่าถ้าขืนปล่อยไปอย่างนี้ ยิ่งเวลาเนิ่นนานไปความเสียหายก็จะเกิดขึ้น ดีไม่ดีอาจจะถึงขั้นล้มวง ในที่สุดสายัณห์ก็ตัดสินใจเข้าหาผู้ใหญ่ เพื่อให้ท่านเปลี่ยนสัญญา สายัณห์ เสียใหม่ ซึ่งผู้ใหญ่ก็ตกลงกันได้เป็นอย่างดี จากนั้นมาก็มีวงดนตรี สายัณห์ สัญญา และวงดนตรีสัญญา พรนารายณ์ ต่างคนต่างทำมาหากินกันไปไม่สับสนเหมือนตอนแรก แฟนเพลงก็เริ่มเข้าใจดีขึ้น
ถึงปลายปีโชคดีก็มาเยือนอีกครั้ง มีเพลงดังตามต่อเนื่องขึ้นมาอีก อาทิ จำปาลืมต้น , นางกวักมหาเสน่ห์ และนางฟ้ายังอาย ช่วงระยะปีที่สองของวงดนตรีน้องใหม่ เจ้าของเพลงดังหลายเพลงต่อเนื่องกัน ได้ขยับค่าตัวจาก 8,000 บาท เป็น 12,000 บาท และยังไม่ทันจะมีผลงานอะไรเพิ่มเติม สมชาย ทองขาว นักวางแผนจัดการนักเขียนหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ และโปรโมเตอร์นักบุ๊คงานการแสดงเดินสาย ที่ได้ชื่อว่าทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในวงการเพลงลูกทุ่ง ได้ก้าวเข้ามาดูแลบุ๊คการแสดงให้ จากค่าตัววง 12,000 บาท เลยได้ขยับขึ้นไปเป็น 20,000 บาท สายัณห์ สัญญาอดทนดิ้นรนต่อสู้เพื่อแสวงหาชื่อเสียงมานาน พอมีวงดนตรีในชื่อตนเองก็พยายามสร้างผลงานให้ดีที่สุด เท่าที่จะมีความรู้ความสามารถ ไม่น่าเชื่อพออย่างเข้าสู่ปีที่ 3 เท่านั้นเอง วงดนตรีที่ล้มลุกคลุกคลานก็กลับเฟื่องฟูถึงขีดสุด สายัณห์ สัญญา ก้มหน้าก้มตาสร้างผลงานต่อไปอย่างตั้งใจเต็มที่ ผลของความมุมานะก็ทำให้เพลงดังต่อเนื่องอีกในช่วงปลายปีทั้งเพลงลานเทสะเทือน และเพลงน้ำตาอีสาน ดังทะลุทะลวงส่งให้สายัณห์ สัญญา เป็นขวัญใจแฟนเพลงตัวจริง
นับจากนั้นเป็นต้นมา จากอดีตถึงปัจจุบันแฟนเพลงทั้งประเทศก็รู้จักและชื่นชอบในบทเพลงจากเสียงร้องของเขาในนามของ สายัณห์ สัญญา นักเพลงคนจนเจ้าของ ขวัญใจคนเดิม
เข้าชม : 5098
|