ภูมิปัญญาปฏิบัติกับชุมชนแห่งการฟื้นฟู
ระบบการแพทย์สัมพันธ์และผูกพันธ์กับระบบวัฒนธรรมซึ่งทำหน้าที่ให้คุณค่า และความหมาย รวมทั้งจัดความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ ในสังคม ระบบการแพทย์ที่แตกต่างกันจึงให้ความหมายของความเจ็บป่วยและจัดความสัมพันธ์ ระหว่างผู้ป่วยและผู้ให้การบำบัดรักษาแตกต่างกันไป
การแพทย์สมัยใหม่เน้นความสัมพันธ์ที่เป็นทางการ และอธิบายโรคผ่านความรู้ทางชีววิทยา เป็นระบบการรักษาที่แม้มีประสิทธิภาพโดยเฉพาะสำหรับโรคและความผิดปกติบางชนิด แต่สำหรับโรคเรื้อรังหรือความเจ็บป่วยที่ต้องการมากกว่าการรักษาแบบกลไกที่แยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ แล้ว ระบบการแพทย์สมัยใหม่ยังไม่สามารถตอบสนองได้ดีเท่าที่ผู้ป่วยและญาติต้องการ
โดยเฉพาะกับผู้ป่วยเรื้อรังและการฟื้นฟูความพิการซึ่งต้องการการดูแลรักษาเอาใจใส่ที่ต่อเนื่องยาวนาน ระบบการเยียวยาจึงต้องสอดคล้องกับวิถีชีวิตและบริบททางสังคมวัฒนธรรม
สำหรับชาวบ้านจำนวนไม่น้อย การไปนอนพักรับการทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาลเป็นระยะเวลายาวนานเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ไม่เพียงเพราะการเดินทางและที่พักอาศัยซึ่งทางโรงพยาบาลมักไม่มีไว้รองรับญาติ แต่กระบวนการและระเบียบวิธีที่เกี่ยวข้องกับการเยียวยารักษาก็ยังเป็นเรื่องแปลกแยกไปจากพื้นฐานทางความรู้ ความเข้าใจและความคาดหวังของชาวบ้าน
ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ชุมชนมีอยู่เดิมจึงเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับการเยียวยาความเจ็บป่วยเรื้อรังและฟื้นฟูความพิการที่หนังสือเล่มเล็กนี้นำเสนอเป็นตัวอย่าง
การกลับมาหาภูมิปัญญาท้องถิ่นไม่ได้หมายถึงการกลับไปรื้อฟื้นอดีตและนำภูมิปัญญามาใช้อย่างสำเร็จรูปตายตัว ดังที่เราจะเห็นได้จากกรณีศึกษาต่างๆ ในหนังสือเล่มนี้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นเหล่านี้มีการปรับตัว ผลิตใหม่ และผลิตซ้ำในบริบทใหม่ให้มีความหมายต่อการเยียวยาความทุกข์ของผู้พิการได้อย่างที่คงเอกลักษณ์เฉพาะตนของภูมิปัญญาชาวบ้านไว้อย่างน่าสนใจ
ความสนใจเกี่ยวกับการฟื้นฟูความพิการโดยชุมชน หรือที่องค์การอนามัยโลกเรียกว่า Community-Based Rehabilitation (CBR) นั้นมีมายาวนานมากกว่าสองทศวรรษ โดยเหตุผลสำคัญที่ว่า การฟื้นฟูความพิการนั้นไม่ใช่แค่การจัดการกับข้อจำกัดทางร่างกายหรือจิตใจที่ผิดปกติไป แต่เป็นการฟื้นฟูชีวิตชีวิตหนึ่งที่สะดุดล้มลงให้ลุกขึ้นมาได้ใหม่อีกครั้ง เป็นการฟื้นฟูศักยภาพด้านต่างๆ เพื่อทดแทนและชดเชยส่วนที่ขาดหายไป และเป็นการฟื้นฟูชีวิตทางสังคมที่จะทำให้คนพิการสามารถเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้
การฟื้นฟูชีวิตที่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้นลำพังเฉพาะแต่ในระบบบริการทางการแพทย์ แต่ต้องเป็นการฟื้นฟูในบริบทของชุมชนที่มีผู้คนหลากหลายมาเกี่ยวข้อง เพราะการฟื้นฟูดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องการปรับตัวของคนพิการ แต่เป็นเรื่องการปรับตัวของชุมชนควบคู่กันไปในขณะเดียวกันด้วย
หากเราสนใจศึกษาการเยียวยาผู้พิการโดยชุมชนซึ่งมีอยู่ก็จะเห็นศักยภาพของชุมชนอ้าแขนรับคนพิการและมีส่วนร่วมในการบำบัดเยียวยาอย่างไม่นิ่งดูดายต่อความทุกข์ยากของผู้คนที่กำลังเผชิญกับปัญหา
เป็นการสร้างชุมชนแห่งการเยียวยาที่จะฟื้นฟูชีวิตผู้คนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ถูกประยุกต์ใช้ผ่านประสบการณ์ที่ยาวนาน จนเราเรียกได้ว่าเป็นความงดงามของ “ภูมิปัญญาปฏิบัติในชุมชนแห่งการเยียวยา”
เข้าชม : 158
|